คุณพ่อผู้มั่งคั่ง อยากให้ลูกชายได้มีประสบการณ์ จึงพาไปทัศนาจรยังประเทศที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นประเทศที่ยากจน ด้วยความที่อยากให้ลูกได้รู้จักความยากจน พ่อลูกใช้เวลาสองวันสองคืนกับครอบครัวชาวไร่ที่ยากจนมากครอบครัวหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านคุณพ่อก็เริ่มประเมินผล
"เที่ยวนี้เป็นยังไงลูก"
"วิเศษจริงๆครับพ่อ"ลูกชายตอบ
"ลูกเข้าใจแล้วซินะ คนจนน่ะเป็นยังไง"
"เข้าใจแล้วครับ"
"แล้วลูกได้เรียนรู้อะไรจากการที่ไปเห็นมาบ้างล่ะ"
"ได้เยอะเลยครับ ผมว่าเราต่างจากเขามากจริงๆ
เรามีหมาตัวเดียว พวกเขามีทั้ง ๔ ตัว
เรามีสระว่ายน้ำใหญ๋อยู่ติดสวนหลังบ้าน พวกเขามีลำธารมีน้ำใสไหลริน
บ้านเรามีโคมไฟจากอิตาลีอยู่ในสวน พวกเขามีดาวระยิบระยับกระจายเต็มฟ้า
ระเบียงบ้านเรายื่นไปแค่สวนหลังบ้าน ของเขากว้างไกลสุดขอบฟ้า
บ้านเราอยู่ในดินผืนเล็กๆ ของเขาอยู่ทุ่งนากว้างสุดสายตา
เรามีผู้คนคอยรับใช้เรา พวกเขาคอยบริการเพื่อนบ้าน
เราต้องซื้ออาหาร พวกเขาปลูกกินเอง
บ้านเราต้องมีกำแพงบ้าน พวกเขามีเพื่อนบ้านเป็นรั้วคอยปกป้องคุ้มครอง"
เมื่อได้ฟังลูกชาย คุณพ่อพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่ ลูกชายพูดต่อ
"ขอบคุณมากนะครับพ่อ ที่ช่วยให้ผมรู้ว่าฐานะเราแย่แค่ไหน"
หลายๆครั้งเราลืมของที่เรามี ได้แต่จดจ่อแต่สิ่งที่เราไม่มีของที่ไร้ค่าสำหรับคนหนึ่งกลับเป็นที่อยากได้เป็นหนักหนาของอีกคนหนึ่ง มันน่าจะดีกว่าหรือเปล่าถ้าเราทุกคนพร้อมใจกันพอใจในสิ่งที่เรามี แทนที่จะวุ่นวายอยู่กับอะไรอยากมี
จากหนังสือคัมภีร์ครอบครัวประจำปี ๒๕๔๖ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น