7 กันยายน 2553

ต่างมุมมอง

  คุณพ่อผู้มั่งคั่ง อยากให้ลูกชายได้มีประสบการณ์ จึงพาไปทัศนาจรยังประเทศที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นประเทศที่ยากจน ด้วยความที่อยากให้ลูกได้รู้จักความยากจน พ่อลูกใช้เวลาสองวันสองคืนกับครอบครัวชาวไร่ที่ยากจนมากครอบครัวหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านคุณพ่อก็เริ่มประเมินผล



   "เที่ยวนี้เป็นยังไงลูก"
   "วิเศษจริงๆครับพ่อ"ลูกชายตอบ
   "ลูกเข้าใจแล้วซินะ คนจนน่ะเป็นยังไง"
   "เข้าใจแล้วครับ"
   "แล้วลูกได้เรียนรู้อะไรจากการที่ไปเห็นมาบ้างล่ะ"
   "ได้เยอะเลยครับ ผมว่าเราต่างจากเขามากจริงๆ
    เรามีหมาตัวเดียว พวกเขามีทั้ง ๔ ตัว
    เรามีสระว่ายน้ำใหญ๋อยู่ติดสวนหลังบ้าน พวกเขามีลำธารมีน้ำใสไหลริน
    บ้านเรามีโคมไฟจากอิตาลีอยู่ในสวน พวกเขามีดาวระยิบระยับกระจายเต็มฟ้า
    ระเบียงบ้านเรายื่นไปแค่สวนหลังบ้าน ของเขากว้างไกลสุดขอบฟ้า
    บ้านเราอยู่ในดินผืนเล็กๆ ของเขาอยู่ทุ่งนากว้างสุดสายตา
    เรามีผู้คนคอยรับใช้เรา พวกเขาคอยบริการเพื่อนบ้าน
    เราต้องซื้ออาหาร พวกเขาปลูกกินเอง
    บ้านเราต้องมีกำแพงบ้าน พวกเขามีเพื่อนบ้านเป็นรั้วคอยปกป้องคุ้มครอง"


       เมื่อได้ฟังลูกชาย คุณพ่อพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่ ลูกชายพูดต่อ
    "ขอบคุณมากนะครับพ่อ ที่ช่วยให้ผมรู้ว่าฐานะเราแย่แค่ไหน"




   หลายๆครั้งเราลืมของที่เรามี ได้แต่จดจ่อแต่สิ่งที่เราไม่มีของที่ไร้ค่าสำหรับคนหนึ่งกลับเป็นที่อยากได้เป็นหนักหนาของอีกคนหนึ่ง มันน่าจะดีกว่าหรือเปล่าถ้าเราทุกคนพร้อมใจกันพอใจในสิ่งที่เรามี แทนที่จะวุ่นวายอยู่กับอะไรอยากมี
 จากหนังสือคัมภีร์ครอบครัวประจำปี ๒๕๔๖ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย
                                                         ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น