3 กันยายน 2553

ความอดทน เรื่องชีวิต

    ความอดทนมีความสำคัญเท่าๆกับฝีมือในเชิงมวย ถึงแม้นว่านักมวยมีความรู้สูง รู้วิธีชก รู้ทางของคู่ต่อสู้ ก็จำเป็นต้องมีอีกอย่างคือ ความอดทนในตัวเอง อดทนในหมัดของคู่ต่อสู้จะมาโดนตัวเอง ถ้าไม่มีความอดทนเพียงพอเมื่อโดนหมัดคู่ต่อสู้ ถ้ามีแต่ความรู้ดีในเชิงมวย ไม่มีความอดทน เพียงถูกหมัดเข้าเราก็ล้มโอกาสที่ชนะก็ไม่มี

  หลังจากที่เที่ยวหันรีหันขวาง เหมือนลูกข่างหมดแรงหมุน เหมือนเรือไม่มีหางเสือ รถไม่มีคนบังคับแล้ว ก็เงียบหายไปเหมือนเสือเข้าถ้ำ ไม่ใช่เพราะกินอิ่มสุขสบายหรือเพราะถูกหวยร่ำรวยเบอร์หุ้นที่ไหนหรอกครับ
       เนื่องจากเพราะไม่รู้จะไปทางไหนนะสิในโลกออนไลน์
               มันดูสับสนวุ่นวายเสียจริงๆ
                      จากการไปอ่านตามเวปบอร์ดตามกะทู้ต่างๆ
                                  ที่มีอยู่มากมาย
                                                      เรามันเหมือนเด็กเพิ่งหัดเดินจริงๆ
                                                                               มีอะไรก็จะล้มเอาลูกเดียว


             มันช่างไม่อายเจ้าหนู
          Cody Mccosland จริงๆ
   เขาเกิดมาโดยไม่มีกระดูกที่หัวเข่า
จนต้องตัดขาทิ้งไปตั้งแต่อายุได้เพียง15เดือน
  และต้องหัดเดินโดยใช้ขาเทียมมาตลอด
    ทั้งที่ตัวเองก็มีโรคประจำตัว
  เกี่ยวกับระบบการหายใจติดขัด                  
           โรคหอบหืด
   ก็ยังเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา
      วิ่งสำหรับเด็กพิการ
เป็นเด็กที่ชอบเล่นกีฬาหลายชนิด
ทั้ง กอล์ฟ สกีน้ำ ว่ายน้ำ คาราเต้
เบสบอล  และฮอกกี้น้ำแข็ง กว่าจะมามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ เจ้าหนู Cody ต้องต่อสู้กับโชคชะตาของตัวเอง ที่ไม่สามารถเลือกเกิดมาเหมือนคนที่ปกติได้
   ครับ!เรื่องราวของเด็กชายชาวอังกฤษคนนี้ ในเมืองไทยเราก็เอามา สร้างพลังกำลังใจให้คนที่ท้อแท้หมดกำลังใจ ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะดูเหมือนว่าปัญหา "เรื่องชีวิต" จะมีความสำคัญยิ่งกว่าปัญหาใดๆ นักปรัชญาและเจ้าลัทธิศาสนา ต่างก็พยายามค้นคว้าเรื่องชีวิต แต่ก็ดูเหมือนว่าเรื่องของชีวิต ของคนเรานี้เป็นเรื่องที่เรียนยังไงก็ไม่จบ นอกจากจะไม่จบแล้วยังไม่สามารถได้ความรู้แจ่มแจ้ง ก็เพราะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป
         ฉะนั้นเรื่องของชีวิตจึงมีความสำคัญมาก เพราะชีวิตมีทั้งความทุกข์ความลำบาก มีทั้งความสุขความสบาย หรือถ้าเราอยู่ไปวันๆชีวิตนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร คนเรานั้นจะมีสุขหรือมีทุกข์ ไม่ได้อยู่ในลักษณะของชีวิต แต่เป็นอำนาจของสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวเรา และการกระทำของเราผู้เป็นเจ้าของชีวิตเองต่างหาก


"ผมชกมา ทุกรายการสำคัญของโลกแล้ว มันยังคาใจผมอยู่เหรียญเดียว คือโอลิมปิกหนนี้ผมตั้งใจเต็มที่ เพื่อจะคว้าเหรียญทอง มาครองให้ได้ ครั้งก่อนที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ผมเสียใจสุดๆ เพราะจับสลากมาเจอตอ ในรอบ ๒ พบนักชกคิวบา เต็งเหรียญทองเหมือนผม ๓ ยกแรกผมนำ ๓ คะแนน ยกที่ ๔ หากผมไม่พลาดก็จะชนะทันที แต่เพราะพลาด" สมจิตร กล่าว
   ครับนั้นเป็นคำพูดของสมจิตร จงจอหอ ที่ค้างคาใจของนักชกคนนี้มาตลอด เมื่อคราวกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ประเทศกรีซ เมื่อปี ๒00๔ ทั้งที่คราวนั้น สมจิตรไปในฐานะตัวเต็ง ที่จะคว้าเหรียญทองให้ทีมนักชกชาวไทย จากนั้นอีก ๔ ปีให้หลัง ด้วยความใจสู้และความมุมานะอดทน ไม่ท้อถอยและไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค ทั้งที่สมจิตรตอนนั้น มีอายุปาเข้าไป ๓๓ ปีกว่าๆ หากเป็นหลายคนคงจะถอดใจเลิกชกไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว..แต่ชายคนที่ชื่อว่า "สมจิตร จงจอหอ"หาเป็นเช่นไม่.?
      เขาได้แสดงให้เราได้เห็นว่า .......
            "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
            แม้นว่าจะต้องเจอกับความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ว่าจะเป็น
                            การพลาดเหรียญทอง เอเชี่ยนเกมส์ที่ โดฮาเกมส์
                                รวมไปถึงแพ้แบบน่ากังขา ที่ซีเกมส์ที่ฟิลิปินส์
                                        อาจจะดูเหมือนว่า...
                                            ชีวิตการชกมวยของสมจิตรเริ่มจะตกต่ำลงมาเรื่อยๆ..
                                                             แต่กระนั้นความที่เป็นคนไม่ยอมแพ้
                                                                  สมจิตรก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อม
       จน...โอกาสเริ่มเปิดกว้าง... เมื่อสมจิตรคว้าเหรียญเงินมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่ ชิคาโกสหรัฐอเมริกา พร้อมกับคว้าตั๋วไปลุยโอลิมปิค ที่กรุงปักกิ่ง แต่...ด้วยวัย ๓๔ ปี ๗ เดือน ที่น้อยคนนักจะเชื่อว่า สมจิตร จะมาได้ไกลขนาดนั้น แต่เขาผู้นี้ก็พิสูจน์ให้โลกได้รู้จักกับความเป็นนักสู้ของคนไทยนามว่า " สมจิตร จงจอหอ"

         ๑๒ปีที่รอคอย...
             ๑๒ปีที่พบแต่ความผิดหวัง...
                   ๑๒ ปีที่อดทนและไม่ยอมแพ้...
                             ๑๒ปีที่ไปโอลิมปิคครั้งแรกในฐานะช่างตัดผมนักกีฬา...
                                    ๑๒ปีที่เฝ้ามองสมรักษ์ คำสิงห์ แล้วอยากเป็นแบบนั้นบ้าง...
                                            ๑๒ปีที่ สมจิตร บอกให้ชาวไทยและชาวโลกรู้ว่า...
                    หากเราไม่ย่อท้อเสียก่อนสักวันต้องเป็นวันของเรา
 ขอเพียงเราต้องอดทนกับชีวิต... แม้ว่าเราจะรู้สึกท้อแท้... รู้สึกสิ้นหวังหมดกำลังใจ...แต่ถ้า...จิตใจ...ของเรามีแต่ความมุ่งมั่น..ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้และจงมีความเชื่อว่า..เราทำได้ เพราะไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อเรา ยกเว้นตัวเรา ชีวิตเป็นของเรา ชีวิตเราเป็นอย่างนี้เช่นทุกวันนี้ เป็นเพราะตัวเรา "สมจิตร จงจอหอ" อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ใครๆอีกหลายๆคน กลับมามีแรงเพื่อที่จะต่อสู้กับอุปสรรค์ต่างๆ และก้าวข้ามไปให้ได้ วันนี้ขอเราอย่าได้ถอย...ไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสสักเท่าไร
                                                                                                                                   "หญ้าแม้เป็นพืชต้นเล็กๆ แต่เพราะมีความทนทรหด จึงสามารถแพร่พันธุ์ไปได้ทั่วโลกฉันใด คนเราแม้กำลังทรัพย์ กำลังความรู้ ความสามารถจะยังน้อย แต่ถ้ามีความอดทนแล้ว ย่อมสามารถฝึกฝนตนเอง ให้ประสบความสุขความสำเร็จในชีวิตได้ฉันนั้น"
   ที่มา(http://www1.freehostingguru.com/thaigenx/mongkhol/mk27.htm)
   หาอ่าน (บนเส้นทางยอดนักสู้สมจิตร จงจอหอ)
   
    
             

                    
       

       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น